@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 22/3 วันที่ 7 มิ.ย. 57

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 22/3 วันที่ 7 มิ.ย. 57

ปานตะวันแอบพาลด้วยความน้อยใจ "จะถามทำไม? จะอยากรู้ไปทำไม? สนใจด้วยเหรอว่าฉันจะเจ็บจะป่วยจะตาย?" ปานตะวันแอบน้ำตาเอ่อ
นาคินทร์อึ้งเมื่อเห็นน้ำตา

ปานตะวันฉกวิตามินกลับมาก่อนจะผลักอกนาคินทร์ "ไม่ต้องมาสนใจ!" ปานตะวันผลักอีก "ออกไป!!" ปานตะวันผลักอีก "ออกไป! ออกไปให้ไกลๆ"
นาคินทร์อึ้งก็แอบน้อยใจบ้างจน ‘ความโกรธแค้น’ เริ่มกลับมา
"ใครจะอยากอยู่ใกล้ผู้หญิงอย่างคุณ?”


ปานตะวันมองอึ้งๆ
"ไม่ได้สนใจ แต่ไม่อยากโดนลูกจ้างเจ้าเล่ห์อย่างคุณเอาเปรียบ อู้งาน เลิกสำออยแล้วรีบออกไปทำงานให้คุ้มค่าจ้างได้แล้ว"
ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์เดินออกไปอย่างรวดเร็ว ปานตะวันทรุดจนแทบจะลมจับอีกครั้งที่คนอะไรใจดำและปากร้ายเหลือเกิน

ปาริฉัตรที่เพิ่งมาถึงหน้าห้องทำงานนาคินทร์เดินเร็วๆ มาที่โต๊ะทำงาน เธอรีบจัดเตรียมเอกสารแล้วจะยกไปแต่ก็ชะงักเปลี่ยนใจนั่งลง ตบแป้ง เติมปาก ส่องกระจก ก่อนจะยิ้มพูดกับกระจก
"ท่านประธานมาถึง จะได้ชื่นใจ"
ปาริฉัตรลุกขึ้นถือแฟ้มเดินเข้าห้องนาคินทร์

ปาริฉัตรวางแฟ้มอย่างบรรจงตั้งใจ เธอมองโต๊ะ เก้าอี้ด้วยความชื่นใจ โดยกำลังจะเอามือแตะเก้าอี้เหมือนแตะตัวนาคินทร์
เสียงกนกรัตน์ดังขึ้น "ทำอะไร?”
ปาริฉัตร สะดุ้งเฮือกก่อนจะหันกลับมามองตาโต "คุณ!!”
กนกรัตน์นั่งไขว้ห้างเชิ่ดๆ อยู่อีกมุมนึง
ปาริฉัตร สั่นก่อนจะฮึด "คุณนั่นแหละ..เข้ามาทำอะไร? เข้ามาได้ยังไง?”
กนกรัตน์ยิ้มก่อนจะลุกขึ้นเดินมาหาอย่างช้าๆ "ทำไมเคทจะเข้ามาไม่ได้?? ตึกนี้ทั้งตึก เคทจะเข้าไปซอกไหนมุมไหนก็ได้ทั้งนั้น เพราะมันเป็นของคุณนาคินทร์ แฟนของเคท" กนกรัตน์พูดน้ำเสียงจิกๆ "เจ้านายของคุณ จริงมั้ยคะ?”
ปาริฉัตร เริ่มตาวาว ก่อนจะยิ้มแล้วหัวเราะขำ
กนกรัตน์งงจึงแว้ดออกมา "ขำอะไร?”
ปาริฉัตร ยักไหล่ "เปล่าค่ะ..เก๊าะ..แค่..ขำหน้าคุณ"
กนกรัตน์อึ้ง "อะไรนะ? เมื่อกี้ว่าอะไรนะ?”
ปาริฉัตรเลิกคิ้วตาแป๋ว "อุ่ย..ทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วยล่ะคะ? ก็แค่บอกว่า" ปาริฉัตรพูดใส่หน้า "ขำหน้าคุณ!!”
กนกรัตน์จ้องตาวาว "ทำไม?? มันน่าขำตรงไหน?”
ปาริฉัตรจ้องตาวาวเช่นกัน "อยากให้บอกจริงเหรอคะ..คุณกนกรัตน์?”
กนกรัตน์จ้องพร้อมคิดในใจว่านังนี่มีอะไรซะแล้ว
กนกรัตน์พุ่งเข้าใส่ "อย่าลีลา..”
นาคินทร์เปิดประตูเข้ามา กนกรัตน์ชะงักกึก
"พี่คินนน" กนกรัตน์แถไปหาทันที
นาคินทร์งงๆ "กนก? มีอะไรรึเปล่าครับ?? ทำไมมานี่แต่เช้า?”
ปาริฉัตรยิ้มคล้ายจะบอกว่านาคินทร์ยังติว่าไม่ควรมาเลยเห็นมั้ย
กนกรัตน์มองปาริฉัตรแบบจิกๆ แล้วหันไปยิ้มหวาน "ก็..คิดถึงพี่คินน่ะค่ะ อยากมาเซอร์ไพรส์"
นาคินทร์มองแบบงงๆ แต่ก็ไม่ว่าอะไรแล้วหันไปมองปาริฉัตร "คุณฉัตร..มีเอกสารอะไรด่วนรึเปล่าครับวันนี้"
ปาริฉัตร ยิ้ม "มีค่ะ..เอกสารจากฝ่ายกฏหมายของเราจะขออนุมัติท่านประธานให้ทำเรื่องฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์พวกที่ชอบ" ปาริฉัตรหันไปจิกกนกรัตน์ "ปลอมแปลงก็อปปี้สินค้าส่งออกของเราน่ะค่ะ"
กนกรัตน์อึ้ง ปาริฉัตรลอยหน้าลอยตายิ้มกับนาคินทร์
นาคินทร์พยักหน้าแล้วนั่งลง "ได้!! ผมขออ่านก่อนนะครับ"
"ค่ะ.." ปาริฉัตรพูดกับนาคินทร์แต่ปรายตามองกนกรัตน์ "พวกชอบก็อปปี้นี่มันแย่จริงๆ นะคะ"
กนกรัตน์อึ้ง
ปาริฉัตร เสียงหวาน "ฉัตรขอตัวก่อนนะคะท่านประธาน"
ปาริฉัตรเดินออกแต่ก็แวะจ้องตากนกรัตน์ทีนึงแล้วทำเป็นแอบขำก่อนจะเดินออกไป กนกรัตน์คิดในใจว่านังนี่วอนหาเรื่องซะแล้ว

ปาริฉัตรยืนส่องกระจก เธอหยิบลิปสติกแท่งที่กนกรัตน์เคยซื้อให้ออกมาเปิดฝาหมุนขึ้นมา
ปาริฉัตรนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ที่กนกรัตน์พูด “เคทรู้สึกถูกชะตากับคุณนะคะ รู้สึกเหมือนเรา2 คนมีอะไรคล้ายๆ กัน ชอบอะไรคล้ายๆ กัน ดูอย่างลิปสติกนี่สิคะ เรายังชอบสีเดียวกันเลย” กนกรัตน์จับลิปสติกใส่มือปาริฉัตร “เคทยินดีแบ่งให้ คุณค่ะ คุณปาริฉัตร”
ปาริฉัตรคิดแล้วก็พูด "เชอะ!! แกมันชอบคล้ายคนอื่นไปหมดแหละ ถ้าแกไม่ไปทุบหน้า" ปาริฉัตรยักไหล่ "รับรองว่าฉันสวยกว่าแกเยอะ" ปาริฉัตรมองลิปสติก "สีนี้..ฉันก็ต้องทาสวยกว่าแก"
พูดจบปาริฉัตรก็จะทาลิปสติกทันใดนั้นก็มีมือมาฉกหมับ ปาริฉัตรหัวขวับไปมองตาโต
"แก!!”
ประกายเดือนยืนทำหน้าทะเล้นอยู่
ปาริฉัตร ตะปบจะเอาคืน "เอามา!! เอาคืนมา!!”
ประกายเดือนขำกลิ้งในขณะดูลิปสติก "หูว..แดงไปป่าว?? สีอะไรเนี่ย" ประกายเดือนพลิกดูด้านใต้ลิปสติกเห็นนัมเบอร์... "โห.." ประกายเดือนอ่านนัมเบอร์
ปาริฉัตรจะตะปบเอาคืนมาได้ เธอผลักประกายเดือนกระเด็น "ไม่ใช่เพื่อนเล่นนะ!! อย่านึกว่ามีท่าน รองฯ แบ็คแล้วจะซ่าได้ เจียมกะลาหัวไว้มั่ง ท่านรองฯ ใช้ผู้หญิงยังกะกระดาษเช็ดก้นเช็ดแล้วก็ทิ้งๆๆ"
"หรอ?" ประกายเดือนยื่นหน้า "ทิ้งลงปากเธอละป่าวล่ะ?" ประกายเดือนบีบจมูกตัวเอง "เหม็นเชียว!! ฮิๆๆ"
พูดจบประกายเดือนก็กระโดดเข้าห้องน้ำริมสุดแล้วล็อคประตูทันที
ปาริฉัตร เงื้อจะตบเก้อ "นังบ้า!! แกสิเหม็น!! เตรียมตกกระป๋องเป็นหมาหัวเน่าเหม็นหึ่งได้เลย"
ไม่มีเสียงตอบรับ ปาริฉัตรฉุนก่อนจะหันมาตั้งใจทาลิปสติกต่อจนปากแดง เธอยิ้มกับกระจกแล้วหันจะเดินออกแต่แล้วก็ชะงักเงิบเพราะหน้าแทบจะชนกับใครคนหนึ่ง
คนนั้นคือกนกรัตน์ที่พูดขึ้น "สวยดีนี่"
"แน่นอนอยู่แล้ว"
กนกรัตน์พูดจริง "ถ้ายังอยากเก็บปากไว้ทาลิปสติกสีสวยๆ ก็ช่วยสงบปากสงบคำอย่ากำเริบกับฉันอีก"
ประกายเดือนจะออกจากห้องน้ำก็ชะงักฟังอยู่ในนั้น
ปาริฉัตร กลัวที่ไหน "คุณต่างหากที่ไม่ควรมากำเริบกับฉัน"
"แกว่าไรนะ?”
ปาริฉัตร มองปากกนกรัตน์ "ถึงแม้คุณจะเคยแบ่งลิปสติกสีเดียวกันให้ฉัน แต่ฉันไม่ยินดีแบ่งท่านประธานให้คุณเด็ดขาด"
กนกรัตน์อึ้ง ประกายเดือนแอบฟัง ปาริฉัตรยิ้มเยาะแล้วจะเดินออก กนกรัตน์จิกหัวไว้แล้วกระชากให้หันมา
ปาริฉัตรพูดทันที "ถ้าแกไม่ปล่อย ฉันจะกระชากหน้ากากแก!!”
กนกรัตน์อึ้ง
ภาพเหตุการณ์ในอดีตย้อนมา เป็นตอนที่กนกรัตน์ฟังโทรศัพท์ เสียงปาริฉัตรดังขึ้น “ฉันจะกระชากหน้ากากแก”
กนกรัตน์อึ้ง ปาริฉัตรจ้องตาอย่างเหนือกว่า กนกรัตน์ตัวชาแล้วก็คลายมือออกจากปาริฉัตร เธอยังมองปาริฉัตรอย่างอึ้งๆ ช็อคๆ อยู่ ปาริฉัตรเลิกคิ้วทำตาโตเย้ยๆ ก่อนจะเดินสะดิ้งออกไป
กนกรัตน์ยังมึนๆ "นังฉัตร?”
ประกายเดินยังแอบฟังอยู่ในห้องน้ำอย่างงงๆ
ปานตะวันนั่งลงพูดกับประกายเดือน
"มาได้ไง? เลิกงานแล้วเหรอ? เดี๋ยวเจ้านายก็ว่าเอา?”
ประกายเดือนลืมตัวจึงทำเชิดๆ "กล้าเรอะ?”
"ว่าไงนะ?”
ประกายเดือนสะดุ้ง "อ่อ..ปะ..เปล่า..เค้าว่าจะกล้าว่าได้ไง เลิกงาน 5 โมงครึ่งเป๊งเค้าถึงออกมาตามเวลาเป๊ะ" ประกายเดือนชูถุงน้ำเต้าหู้ "ซื้อน้ำเต้าหู้ของโปรดมาฝากตะวันด้วยน้า"
ปานตะวันยิ้มชื่นใจแต่ก็ไม่วายบ่น "วันหลังไม่ต้อง..เปลืองเงิน..มีเงินก็หัดเก็บๆ ไว้อีกหน่อยเราจะได้ไม่ลำบาก"
ประกายเดือนค้อน "คุณแม่คะ..ถุงละ 20 เองนะคะคุณแม่?”
"นั่นแหละ" ปานตะวันเข้าเรื่อง "ว่าแต่มาหาพี่มีอะไรรึเปล่า?”
"มีสิ.." ประกายเดือนทำหน้าตาซีเรียส "ก็พี่พิ้งค์เล่าให้ฟังเรื่องตะวัน"
ปานตะวันโพล่งแบบร้อนตัวทันที "อะไร? พิ้งค์เล่าอะไรให้ฟัง"
ประกายเดือนเหวอ "ก็..ก็..ทำไมต้องตกใจขนาดน้าน?? พี่พิ้งค์ก็เล่าแค่ตะวันไม่ค่อยสบาย ถ้าเค้าว่างก็ให้มาหาตะวันบ่อยๆ"
ปานตะวันโล่งอก "แค่นั้นเหรอ? เล่าอะไรอีกรึเปล่า?”

ประกายเดือนมอง "ทำไมล่ะ? มีอะไรอีกรึเปล่าที่เค้าไม่รู้?”
ปานตะวันทำเนียน "ไม่นี่..ไม่มี" ปานตะวันรีบรวบตึงทันที "โอเค.ขอบใจมากนะเดือน พี่คุยได้แป๊บเดียว เดี๋ยวต้องไปดูคุณนารถแล้ว"
"โห่..เดี๋ยวสิ"
"ไม่เดี๋ยวล่ะ..มีอะไรต้องทำอีกเยอะแยะ ใกล้จะถึงวันแต่งงานของคุณนารถแล้ว"
ปานตะวันตาโต "จริงเหรอ?”
ปานตะวันยิ้ม "ไม่น่าเชื่อนะ พี่ดูแลคุณนารถมาจะครบปีแล้ว"
"ครบปี อย่างนี้สัญญาที่ตะวันเซ็นต์กับท่านประธานก็ใกล้จะหมดแล้วน่ะสิ"
ปานตะวันอึ้งไป “..ใช่..”
ประกายเดือนมองปานตะวันอย่างจับความรู้สึกได้ "ตะวัน..ตะวันรักท่านประธานรึเปล่า?”
"เด็กบ้า!! พูดอะไร?”
"เค้าถามจริงๆ"
"เลิกถามอะไรไร้สาระ ท่านประธานของเดือนเค้ามีคนรักชื่อคุณกนกรัตน์"
ประกายเดือนอึ้งไปก่อนจะพูดออกมา "ตะวัน..เค้าว่ายัยกนกรัตน์เนี่ยแปลกๆ นะ"
ปานตะวันมอง "แปลกยังไง?”
ประกายเดือนทำท่าเหมือนกำลังจะเล่า ปานตะวันรอฟัง

สาวิตรีกำลังเข้าคอร์สทำขนมซึ่งเป็นคอร์สเล็กๆ ที่พวกคุณหญิงคุณนายกำลังจัดกันเองในบ้านแค่ 3-4 คน โดยมีเชฟมาคอยสอนเป็นส่วนตัว สาวิตรีและคุณหญิงรัตนาวดีกำลังช่วยกันทำขนมอย่างตั้งใจสุดขีด
สาวิตรีกับคุณหญิงรัตนาวดีร้องวี้ดว้าย "เสร็จแล้ว..เสร็จแล้วค่า"
"คุณครูเชฟให้กี่คะแนนคะ?” สาวิตรีถาม
ครูเชฟอวย "อย่างนี้ต้อง 10 คะแนนเต็มครับ"
ทุกคนกริ้ดกร๊าดด้วยความดีใจ
"น้องสาจัดคอร์สแบบนี้บ่อยๆ นะคะ พี่หญิงช้อบชอบ อยู่บ้านคนเดียวมันเหงา สามีก็ด่วนตายจาก ลูกเต้าก็ไม่มีกับเค้าซักคน" คุณหญิงรัตนาวดีว่า

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 22/3 วันที่ 7 มิ.ย. 57

ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shayna
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57 ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ